วิธีการค้นหารหัสแบทช์ของ YES I AM THE KING
การค้นหารหัสแบทช์บนเครื่องสำอางหรือน้ำหอมของ YES I AM THE KING มีขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้:
-
ตรวจสอบบรรจุภัณฑ์: ในเบื้องต้น ให้ดูที่บรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์เพื่อหาชุดตัวอักษรและตัวเลข ซึ่งเป็นรหัสแบทช์ โดยอาจอยู่บนกล่องที่ใช้บรรจุผลิตภัณฑ์หรืออยู่บนตัวบรรจุภัณฑ์ผลิตภัณฑ์โดยตรง
-
บรรจุภัณฑ์ผลิตภัณฑ์: หากไม่มีกล่องแล้ว ให้ตรวจสอบบรรจุภัณฑ์ผลิตภัณฑ์ รหัสแบทช์อาจพิมพ์หรือปั๊มอยู่ที่ด้านล่าง ด้านหลัง หรือตามขอบของบรรจุภัณฑ์
-
มองหาสัญลักษณ์: บางครั้งรหัสแบทช์จะอยู่ใกล้กับสัญลักษณ์ เช่น สัญลักษณ์ระยะเวลาหลังเปิดใช้ (PAO) ไอคอนรูปโถเปิดที่ระบุว่าผลิตภัณฑ์ปลอดภัยในการใช้งานนานเท่าใดหลังจากเปิดแล้ว
-
ตรวจสอบอย่างละเอียด: เนื่องจากรหัสแบทช์อาจมีขนาดตัวอักษรเล็กหรืออยู่ในบริเวณที่ไม่เด่นชัด ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีแสงสว่างเพียงพอ แว่นขยายอาจช่วยให้มองเห็นรหัสได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
-
ฉลากผลิตภัณฑ์: ในบางครั้ง รหัสแบทช์อาจอยู่บนสติ๊กเกอร์หรือฉลากที่ติดอยู่กับผลิตภัณฑ์ แทนที่จะพิมพ์โดยตรงบนบรรจุภัณฑ์
หากพบว่าการค้นหาหรือตีความรหัสแบทช์เป็นเรื่องยาก แนะนำให้ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าของ YES I AM THE KING เพื่อขอความช่วยเหลือ พวกเขาสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกตามรหัสแบทช์ ช่วยให้คุณทราบวันที่ผลิตของผลิตภัณฑ์และรับรองความสดใหม่และของแท้
เกี่ยวกับ YES I AM THE KING
น้ำหอมคอลเลกชัน Yes I Am The King จาก Geparlys แบรนด์น้ำหอมที่โด่งดังในด้านน้ำหอมในราคาไม่แพง คอลเลกชันนี้เปิดตัวเพื่อเติมเต็มความมั่นใจและความเป็นชายหนุ่มในน้ำหอมแต่ละขวด แม้ Geparlys จะไม่ได้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายเท่าแบรนด์อื่นๆ แต่ได้รับความสนใจในการผลิตน้ำหอมคุณภาพสูงในราคาที่เอื้อมถึง
น้ำหอมเรือธงของคอลเลกชันนี้คือ Yes I Am The King Le Parfum ซึ่งได้รับความนิยมในหมู่นักปรุงน้ำหอม Eau de parfum นี้มีชื่อเสียงในด้านส่วนผสมของกลิ่นซิตรัส วู้ดดี้ และกลิ่นหอมผสมผสาน เข้ากันได้เหมือนน้ำหอมดีไซเนอร์ราคาแพง ผู้ใช้มักจะชื่นชมความทนทานและการกระจายกลิ่น ซึ่งทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาความหอมอันเย้ายวนใจและยาวนาน
ถึงแม้ว่า Yes I Am The King อาจไม่มีความหรูหราของน้ำหอมดีไซเนอร์ราคาแพง แต่ก็มีจุดยืนในตลาดสำหรับผู้ที่มองหาน้ำหอมคุณภาพในราคาที่เอื้อมถึง ความสำเร็จของคอลเลกชันนี้แสดงให้เห็นถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับความหรูหราที่เข้าถึงได้ในอุตสาหกรรมน้ำหอม รวมถึงเป็นโอกาสให้ผู้บริโภคได้สัมผัสกับกลิ่นหอมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากแบรนด์ระดับพรีเมียมโดยไม่ต้องจ่ายราคาแพง
สำรวจแบรนด์เพิ่มเติมโดย Geparlys S.A.S.
ตรวจสอบวันที่ผลิตของเครื่องสำอางและน้ำหอมของคุณตอนนี้
บล็อกยอดนิยม
ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องสำอางและน้ำหอม
- Batch Code คืออะไร Batch Code หรือ "รหัสแบทช์" คือตัวระบุเฉพาะที่ใช้ในการติดตามกลุ่มสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในช่วงเวลาเดียวกัน มันช่วยให้ผู้ผลิตสามารถติดตามและระบุแหล่งที่มาของสินค้าได้อย่างแม่นยำ เมื่อเกิดปัญหาหรือข้อกังวลด้านคุณภาพ รหัสแบทช์มักจะประกอบด้วยตัวอักษร ตัวเลข หรือทั้งสองอย่างผสมกัน ซึ่งบ่งบอกถึงข้อมูลสำคัญ เช่น วันที่ผลิต สถานที่ผลิต หรือหมายเลขกะการผลิต ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้สามารถระบุและแยกแยะผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งได้อย่างชัดเจน การใช้รหัสแบทช์เป็นสิ่งสำคัญในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อาหารและยา เพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์มีคุณภาพและปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค นอกจากนี้ยังช่วยอำนวยความสะดวกในการเรียกคืนสินค้า หากพบปัญหาหรือข้อบกพร่องในภายหลัง
- ฉันจะแปลเนื้อหาด้านล่างเป็นภาษาไทยตามคำแนะนำของคุณ โดยจะแปลสองครั้ง ครั้งแรกจะแปลตรงตัวตามเนื้อหา และครั้งที่สองจะถ่ายทอดความหมายใหม่ให้เข้าใจง่ายและสอดคล้องกับวิธีการแสดงออกของภาษาไทย โดยยึดตามความหมายเดิม ฉันจะเว้นวรรคก่อนและหลังชื่อแบรนด์และผลิตภัณฑ์ที่เป็นภาษาอังกฤษ และจะรักษารูปแบบ markdown ไว้ โดยจะไม่ขยายเนื้อหาเพิ่มเติม ต่อไปนี้คือผลลัพธ์การแปลครั้งที่สองเป็นภาษาไทย: จะหารหัสแบทช์บนเครื่องสำอางและน้ำหอมของคุณได้ที่ไหน?
- วิธีตรวจสอบวันหมดอายุของเครื่องสำอางและน้ำหอม เครื่องสำอางและน้ำหอมเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีอายุการใช้งาน ถ้าใช้เกินวันหมดอายุอาจส่งผลเสียต่อผิวหนังได้ เพื่อความปลอดภัย เราควรตรวจสอบวันหมดอายุก่อนซื้อและใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้เสมอ โดยดูจากสัญลักษณ์รูปโหลเปิดฝา ซึ่งจะระบุอายุการใช้งานหลังเปิดใช้ เช่น 12M หมายถึงใช้ได้นาน 12 เดือนหลังเปิดฝา หรือสังเกตจากวันที่ผลิตและวันหมดอายุที่ระบุบนบรรจุภัณฑ์ เมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ให้สังเกตการเปลี่ยนแปลงของสี กลิ่น เนื้อสัมผัส หากพบความผิดปกติควรหยุดใช้ทันที เพื่อให้ใช้เครื่องสำอางและน้ำหอมได้อย่างปลอดภัย อย่าลืมเช็กวันหมดอายุก่อนซื้อและใช้งานนะคะ