วิธีการค้นหารหัสแบทช์ของ STEPHEN KNOLL NEW YORK
การค้นหารหัสแบทช์บนเครื่องสำอางหรือน้ำหอมของ STEPHEN KNOLL NEW YORK มีขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้:
-
ตรวจสอบบรรจุภัณฑ์: ในเบื้องต้น ให้ดูที่บรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์เพื่อหาชุดตัวอักษรและตัวเลข ซึ่งเป็นรหัสแบทช์ โดยอาจอยู่บนกล่องที่ใช้บรรจุผลิตภัณฑ์หรืออยู่บนตัวบรรจุภัณฑ์ผลิตภัณฑ์โดยตรง
-
บรรจุภัณฑ์ผลิตภัณฑ์: หากไม่มีกล่องแล้ว ให้ตรวจสอบบรรจุภัณฑ์ผลิตภัณฑ์ รหัสแบทช์อาจพิมพ์หรือปั๊มอยู่ที่ด้านล่าง ด้านหลัง หรือตามขอบของบรรจุภัณฑ์
-
มองหาสัญลักษณ์: บางครั้งรหัสแบทช์จะอยู่ใกล้กับสัญลักษณ์ เช่น สัญลักษณ์ระยะเวลาหลังเปิดใช้ (PAO) ไอคอนรูปโถเปิดที่ระบุว่าผลิตภัณฑ์ปลอดภัยในการใช้งานนานเท่าใดหลังจากเปิดแล้ว
-
ตรวจสอบอย่างละเอียด: เนื่องจากรหัสแบทช์อาจมีขนาดตัวอักษรเล็กหรืออยู่ในบริเวณที่ไม่เด่นชัด ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีแสงสว่างเพียงพอ แว่นขยายอาจช่วยให้มองเห็นรหัสได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
-
ฉลากผลิตภัณฑ์: ในบางครั้ง รหัสแบทช์อาจอยู่บนสติ๊กเกอร์หรือฉลากที่ติดอยู่กับผลิตภัณฑ์ แทนที่จะพิมพ์โดยตรงบนบรรจุภัณฑ์
หากพบว่าการค้นหาหรือตีความรหัสแบทช์เป็นเรื่องยาก แนะนำให้ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าของ STEPHEN KNOLL NEW YORK เพื่อขอความช่วยเหลือ พวกเขาสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกตามรหัสแบทช์ ช่วยให้คุณทราบวันที่ผลิตของผลิตภัณฑ์และรับรองความสดใหม่และของแท้
เกี่ยวกับ STEPHEN KNOLL NEW YORK
Stephen Knoll New York แบรนด์ดูแลเส้นผมชื่อดังของบริษัทเครื่องสำอางญี่ปุ่น Kose ได้ให้บริการโซลูชั่นนวัตกรรมสำหรับสุขภาพและความงามของเส้นผมนับตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง โดยมีผู้ก่อตั้งคือช่างทำผมชื่อดัง Stephen Knoll แบรนด์นี้ได้ผสมผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยของญี่ปุ่นเข้ากับส่วนผสมคุณภาพสูงเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับทุกประเภทของเส้นผม
หนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของ Stephen Knoll New York คือ Smooth Calm Collection ซึ่งประกอบด้วย Natural Touch Shampoo, Smooth Calm Daily Mask, และ Smooth Finishing Treatment ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ออกแบบมาเพื่อซ่อมแซมผมเสีย ลดผมชี้ฟู และให้ความเรียบลื่นและจัดการง่ายในระยะยาว อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมคือ Madison58 Styling Line ซึ่งมี Madison58 Matte Texture Wax ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดแต่งทรงผมคุณภาพระดับซาลอนพร้อมบำรุงผมไปด้วย
ความมุ่งมั่นของ Stephen Knoll New York ในเรื่องคุณภาพและนวัตกรรมทำให้แบรนด์ได้รับรางวัลมากมาย รวมถึง Ginger Beauty Award สำหรับผลิตภัณฑ์ Scalp Care System Cleanser and Hydrator และ VOCE Best Cosmetics Award สำหรับ Moisture Repair Mask ด้วยการมุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีแคปซูลนาโนของญี่ปุ่นเพื่อเพิ่มการดูดซึมความชื้นและสารอาหารของเส้นผม Stephen Knoll New York ยังคงกำหนดมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรมการดูแลเส้นผม โดยให้บริการโซลูชั่นสำหรับทุกปัญหาเส้นผมและเสริมสร้างความมั่นใจในความงามตามธรรมชาติของผู้ใช้
สำรวจแบรนด์เพิ่มเติมโดย KOSÉ Corporation
ตรวจสอบวันที่ผลิตของเครื่องสำอางและน้ำหอมของคุณตอนนี้
บล็อกยอดนิยม
ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องสำอางและน้ำหอม
- Batch Code คืออะไร Batch Code หรือ "รหัสแบทช์" คือตัวระบุเฉพาะที่ใช้ในการติดตามกลุ่มสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในช่วงเวลาเดียวกัน มันช่วยให้ผู้ผลิตสามารถติดตามและระบุแหล่งที่มาของสินค้าได้อย่างแม่นยำ เมื่อเกิดปัญหาหรือข้อกังวลด้านคุณภาพ รหัสแบทช์มักจะประกอบด้วยตัวอักษร ตัวเลข หรือทั้งสองอย่างผสมกัน ซึ่งบ่งบอกถึงข้อมูลสำคัญ เช่น วันที่ผลิต สถานที่ผลิต หรือหมายเลขกะการผลิต ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้สามารถระบุและแยกแยะผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งได้อย่างชัดเจน การใช้รหัสแบทช์เป็นสิ่งสำคัญในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อาหารและยา เพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์มีคุณภาพและปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค นอกจากนี้ยังช่วยอำนวยความสะดวกในการเรียกคืนสินค้า หากพบปัญหาหรือข้อบกพร่องในภายหลัง
- ฉันจะแปลเนื้อหาด้านล่างเป็นภาษาไทยตามคำแนะนำของคุณ โดยจะแปลสองครั้ง ครั้งแรกจะแปลตรงตัวตามเนื้อหา และครั้งที่สองจะถ่ายทอดความหมายใหม่ให้เข้าใจง่ายและสอดคล้องกับวิธีการแสดงออกของภาษาไทย โดยยึดตามความหมายเดิม ฉันจะเว้นวรรคก่อนและหลังชื่อแบรนด์และผลิตภัณฑ์ที่เป็นภาษาอังกฤษ และจะรักษารูปแบบ markdown ไว้ โดยจะไม่ขยายเนื้อหาเพิ่มเติม ต่อไปนี้คือผลลัพธ์การแปลครั้งที่สองเป็นภาษาไทย: จะหารหัสแบทช์บนเครื่องสำอางและน้ำหอมของคุณได้ที่ไหน?
- วิธีตรวจสอบวันหมดอายุของเครื่องสำอางและน้ำหอม เครื่องสำอางและน้ำหอมเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีอายุการใช้งาน ถ้าใช้เกินวันหมดอายุอาจส่งผลเสียต่อผิวหนังได้ เพื่อความปลอดภัย เราควรตรวจสอบวันหมดอายุก่อนซื้อและใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้เสมอ โดยดูจากสัญลักษณ์รูปโหลเปิดฝา ซึ่งจะระบุอายุการใช้งานหลังเปิดใช้ เช่น 12M หมายถึงใช้ได้นาน 12 เดือนหลังเปิดฝา หรือสังเกตจากวันที่ผลิตและวันหมดอายุที่ระบุบนบรรจุภัณฑ์ เมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ให้สังเกตการเปลี่ยนแปลงของสี กลิ่น เนื้อสัมผัส หากพบความผิดปกติควรหยุดใช้ทันที เพื่อให้ใช้เครื่องสำอางและน้ำหอมได้อย่างปลอดภัย อย่าลืมเช็กวันหมดอายุก่อนซื้อและใช้งานนะคะ