วิธีการค้นหารหัสแบทช์ของ Seru
การค้นหารหัสแบทช์บนเครื่องสำอางหรือน้ำหอมของ Seru มีขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้:
-
ตรวจสอบบรรจุภัณฑ์: ในเบื้องต้น ให้ดูที่บรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์เพื่อหาชุดตัวอักษรและตัวเลข ซึ่งเป็นรหัสแบทช์ โดยอาจอยู่บนกล่องที่ใช้บรรจุผลิตภัณฑ์หรืออยู่บนตัวบรรจุภัณฑ์ผลิตภัณฑ์โดยตรง
-
บรรจุภัณฑ์ผลิตภัณฑ์: หากไม่มีกล่องแล้ว ให้ตรวจสอบบรรจุภัณฑ์ผลิตภัณฑ์ รหัสแบทช์อาจพิมพ์หรือปั๊มอยู่ที่ด้านล่าง ด้านหลัง หรือตามขอบของบรรจุภัณฑ์
-
มองหาสัญลักษณ์: บางครั้งรหัสแบทช์จะอยู่ใกล้กับสัญลักษณ์ เช่น สัญลักษณ์ระยะเวลาหลังเปิดใช้ (PAO) ไอคอนรูปโถเปิดที่ระบุว่าผลิตภัณฑ์ปลอดภัยในการใช้งานนานเท่าใดหลังจากเปิดแล้ว
-
ตรวจสอบอย่างละเอียด: เนื่องจากรหัสแบทช์อาจมีขนาดตัวอักษรเล็กหรืออยู่ในบริเวณที่ไม่เด่นชัด ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีแสงสว่างเพียงพอ แว่นขยายอาจช่วยให้มองเห็นรหัสได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
-
ฉลากผลิตภัณฑ์: ในบางครั้ง รหัสแบทช์อาจอยู่บนสติ๊กเกอร์หรือฉลากที่ติดอยู่กับผลิตภัณฑ์ แทนที่จะพิมพ์โดยตรงบนบรรจุภัณฑ์
หากพบว่าการค้นหาหรือตีความรหัสแบทช์เป็นเรื่องยาก แนะนำให้ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าของ Seru เพื่อขอความช่วยเหลือ พวกเขาสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกตามรหัสแบทช์ ช่วยให้คุณทราบวันที่ผลิตของผลิตภัณฑ์และรับรองความสดใหม่และของแท้
เกี่ยวกับ Seru
Seru เป็นแบรนด์ไอศกรีมที่ได้รับความนิยมและเป็นที่รักของ Unilever Indonesia ซึ่งมอบความสุขและความปิติยินดีให้กับครอบครัวทั่วประเทศมานานกว่าทศวรรษ นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2010 Seru ได้กลายเป็นชื่อที่คุ้นเคยในครัวเรือนอย่างรวดเร็ว เป็นที่รู้จักในด้านขนมไอศกรีมที่อร่อยและราคาไม่แพง ซึ่งตอบสนองรสนิยมและความชอบที่หลากหลายของผู้บริโภคชาวอินโดนีเซีย
ความสำเร็จของ Seru นั้นอยู่ที่ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย มีนวัตกรรม และรสชาติที่อร่อย ตั้งแต่ Seru Cone แบบคลาสสิก โคนเวเฟอร์กรอบที่เต็มไปด้วยไอศกรีมวานิลลาเนียนนุ่ม ไปจนถึง Seru Magnum ที่หรูหรา แท่งไอศกรีมอันแสนอร่อยเคลือบด้วยช็อกโกแลตเข้มข้น แบรนด์นี้มีทางเลือกสำหรับทุกคน ความมุ่งมั่นของ Seru ในการใช้ส่วนผสมคุณภาพสูงและพัฒนารสชาติใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้นอย่างต่อเนื่อง เช่น Seru Durian และ Seru Taro ที่ได้รับความนิยม ช่วยให้ Seru รักษาตำแหน่งความเป็นที่ชื่นชอบในหมู่ผู้ที่ชื่นชอบไอศกรีมในอินโดนีเซีย
ในฐานะแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับการเข้าถึงได้และครอบคลุม Seru ได้ทำให้เป็นพันธกิจในการนำความสุขของไอศกรีมไปสู่ผู้คนจากทุกเพศทุกวัย ด้วยราคาที่จับต้องได้และมีวางจำหน่ายอย่างแพร่หลายผ่านช่องทางค้าปลีกต่างๆ Seru จึงกลายเป็นส่วนสำคัญของตลาดไอศกรีมในอินโดนีเซีย มอบของว่างที่อร่อยและน่าพึงพอใจ ซึ่งนำครอบครัวและเพื่อนๆ มารวมกัน
สำรวจแบรนด์เพิ่มเติมโดย Unilever PLC
ตรวจสอบวันที่ผลิตของเครื่องสำอางและน้ำหอมของคุณตอนนี้
- AHC
- Axe
- Bango
- Ben & Jerry's
- Blueair
- Buavita
- Cif
- Citra
- Clear
- Closeup
- Comfort
- Cornetto
- Dermalogica
- Doli Planet
- Domestos
- Dove
- Feast
- Glow & Lovely
- Hazeline
- Hazeline Snow
- Hellmann's
- Horlicks
- Jawara
- Knorr
- Lifebuoy
- Liquid I.V.
- Living Proof
- Love Beauty & Planet
- Lux
- LYNX
- Magnum
- Molto
- Nutrafol
- OLLY
- OMO
- Paddle Pop
- Paula's Choice
- Pepsodent
- Pond's
- Populaire
- Radiant
- Rexona
- Rinso
- Royco
- SariWangi
- Seedology
- Seru
- Signal
- Simple
- St. Ives
- Sunlight
- Sunsilk
- Superpell
- Surf
- The Laundress
- The Vegetarian Butcher
- TRESemmé
- Truliva
- Tunemakers
- Vaseline
- Verve
- Viennetta
- Vixal
- Wall's
- Wipol
- Zhong Hua
- Zwitsal
บล็อกยอดนิยม
ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องสำอางและน้ำหอม
- Batch Code คืออะไร Batch Code หรือ "รหัสแบทช์" คือตัวระบุเฉพาะที่ใช้ในการติดตามกลุ่มสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในช่วงเวลาเดียวกัน มันช่วยให้ผู้ผลิตสามารถติดตามและระบุแหล่งที่มาของสินค้าได้อย่างแม่นยำ เมื่อเกิดปัญหาหรือข้อกังวลด้านคุณภาพ รหัสแบทช์มักจะประกอบด้วยตัวอักษร ตัวเลข หรือทั้งสองอย่างผสมกัน ซึ่งบ่งบอกถึงข้อมูลสำคัญ เช่น วันที่ผลิต สถานที่ผลิต หรือหมายเลขกะการผลิต ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้สามารถระบุและแยกแยะผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งได้อย่างชัดเจน การใช้รหัสแบทช์เป็นสิ่งสำคัญในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อาหารและยา เพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์มีคุณภาพและปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค นอกจากนี้ยังช่วยอำนวยความสะดวกในการเรียกคืนสินค้า หากพบปัญหาหรือข้อบกพร่องในภายหลัง
- ฉันจะแปลเนื้อหาด้านล่างเป็นภาษาไทยตามคำแนะนำของคุณ โดยจะแปลสองครั้ง ครั้งแรกจะแปลตรงตัวตามเนื้อหา และครั้งที่สองจะถ่ายทอดความหมายใหม่ให้เข้าใจง่ายและสอดคล้องกับวิธีการแสดงออกของภาษาไทย โดยยึดตามความหมายเดิม ฉันจะเว้นวรรคก่อนและหลังชื่อแบรนด์และผลิตภัณฑ์ที่เป็นภาษาอังกฤษ และจะรักษารูปแบบ markdown ไว้ โดยจะไม่ขยายเนื้อหาเพิ่มเติม ต่อไปนี้คือผลลัพธ์การแปลครั้งที่สองเป็นภาษาไทย: จะหารหัสแบทช์บนเครื่องสำอางและน้ำหอมของคุณได้ที่ไหน?
- วิธีตรวจสอบวันหมดอายุของเครื่องสำอางและน้ำหอม เครื่องสำอางและน้ำหอมเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีอายุการใช้งาน ถ้าใช้เกินวันหมดอายุอาจส่งผลเสียต่อผิวหนังได้ เพื่อความปลอดภัย เราควรตรวจสอบวันหมดอายุก่อนซื้อและใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้เสมอ โดยดูจากสัญลักษณ์รูปโหลเปิดฝา ซึ่งจะระบุอายุการใช้งานหลังเปิดใช้ เช่น 12M หมายถึงใช้ได้นาน 12 เดือนหลังเปิดฝา หรือสังเกตจากวันที่ผลิตและวันหมดอายุที่ระบุบนบรรจุภัณฑ์ เมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ให้สังเกตการเปลี่ยนแปลงของสี กลิ่น เนื้อสัมผัส หากพบความผิดปกติควรหยุดใช้ทันที เพื่อให้ใช้เครื่องสำอางและน้ำหอมได้อย่างปลอดภัย อย่าลืมเช็กวันหมดอายุก่อนซื้อและใช้งานนะคะ