วิธีการค้นหารหัสแบทช์ของ Pucci
การค้นหารหัสแบทช์บนเครื่องสำอางหรือน้ำหอมของ Pucci มีขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้:
-
ตรวจสอบบรรจุภัณฑ์: ในเบื้องต้น ให้ดูที่บรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์เพื่อหาชุดตัวอักษรและตัวเลข ซึ่งเป็นรหัสแบทช์ โดยอาจอยู่บนกล่องที่ใช้บรรจุผลิตภัณฑ์หรืออยู่บนตัวบรรจุภัณฑ์ผลิตภัณฑ์โดยตรง
-
บรรจุภัณฑ์ผลิตภัณฑ์: หากไม่มีกล่องแล้ว ให้ตรวจสอบบรรจุภัณฑ์ผลิตภัณฑ์ รหัสแบทช์อาจพิมพ์หรือปั๊มอยู่ที่ด้านล่าง ด้านหลัง หรือตามขอบของบรรจุภัณฑ์
-
มองหาสัญลักษณ์: บางครั้งรหัสแบทช์จะอยู่ใกล้กับสัญลักษณ์ เช่น สัญลักษณ์ระยะเวลาหลังเปิดใช้ (PAO) ไอคอนรูปโถเปิดที่ระบุว่าผลิตภัณฑ์ปลอดภัยในการใช้งานนานเท่าใดหลังจากเปิดแล้ว
-
ตรวจสอบอย่างละเอียด: เนื่องจากรหัสแบทช์อาจมีขนาดตัวอักษรเล็กหรืออยู่ในบริเวณที่ไม่เด่นชัด ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีแสงสว่างเพียงพอ แว่นขยายอาจช่วยให้มองเห็นรหัสได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
-
ฉลากผลิตภัณฑ์: ในบางครั้ง รหัสแบทช์อาจอยู่บนสติ๊กเกอร์หรือฉลากที่ติดอยู่กับผลิตภัณฑ์ แทนที่จะพิมพ์โดยตรงบนบรรจุภัณฑ์
หากพบว่าการค้นหาหรือตีความรหัสแบทช์เป็นเรื่องยาก แนะนำให้ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าของ Pucci เพื่อขอความช่วยเหลือ พวกเขาสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกตามรหัสแบทช์ ช่วยให้คุณทราบวันที่ผลิตของผลิตภัณฑ์และรับรองความสดใหม่และของแท้
เกี่ยวกับ Pucci
ก่อตั้งขึ้นในปี 1947 โดย Emilio Pucci, Marquis of Barsento แบรนด์ที่ตั้งชื่อตามผู้ก่อตั้งเริ่มต้นจากการเป็นร้านขายชุดสกีใน Capri Pucci มีชื่อเสียงจากการออกแบบลวดลายที่สดใส โดยการออกแบบของ Pucci แสดงถึงแนวคิดใหม่ของความสง่างาม - รวดเร็ว สนุกสนาน เป็นธรรมชาติ และไม่ต้องพยายาม ซึ่งสะท้อนถึงแนวคิดของอเมริกาในเรื่องสปอร์ตแวร์และความหรูหรา ในคลังข้อมูลของ Pucci มีสีมากกว่า 500 สี ซึ่งแสดงถึงการทุ่มเทในการใช้พาเลตสีที่หลากหลายของแบรนด์
ตั้งแต่ปี 2000 ภายใต้ LVMH, Pucci เสนอเสื้อผ้าสำเร็จรูปและอุปกรณ์เสริมผ่านแผนกแฟชั่นและเครื่องหนัง หลังจากที่ LVMH ได้ควบคุมเต็มที่ในเดือนมิถุนายน 2021 Laudomia Pucci ลูกสาวของผู้ก่อตั้ง มุ่งเน้นในการรักษามรดกและคลังข้อมูลของแบรนด์ การเปลี่ยนแปลงนี้แสดงถึงเจตนากลยุทธ์ของ LVMH ที่จะฟื้นฟูตัวตนที่เน้นการพักผ่อนของ Pucci ความร่วมมือล่าสุด เช่น กับ Supreme มีเป้าหมายเพื่อดึงดูดกลุ่มคนรุ่นใหม่ในขณะที่ยังคงรักษาสถานะไอคอนของแบรนด์
Pucci มีความโดดเด่นในตลาดอย่างมาก โดยเฉพาะในสถานที่พักผ่อนต่างๆ เช่น Saint-Tropez, Palm Beach, Miami, Portofino และ Capri ความนิยมของแบรนด์ขยายไปถึงรัสเซียและตะวันออกกลาง โดยมีร้านบูติกใน Dubai และ Doha, Qatar แม้ว่าจะมีการปิดร้านบูติกใน New York, Milan, และ Paris แต่การเน้นที่รีสอร์ทของ Pucci ยังคงทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นในสถานที่สำคัญเหล่านี้
สำรวจแบรนด์เพิ่มเติมโดย LVMH Moët Hennessy Louis Vuitton SE
ตรวจสอบวันที่ผลิตของเครื่องสำอางและน้ำหอมของคุณตอนนี้
- Acqua Di Parma (ADP)
- Benefit Cosmetics
- Berluti
- BITE Beauty
- Bvlgari
- Céline
- Cha Ling
- Chaumet
- Christian Dior
- Fendi
- Fenty Beauty by Rihanna
- Fred
- Fresh
- Givenchy
- Guerlain
- Hublot
- Kenzo
- KVD Vegan Beauty
- Loewe
- Loro Piana
- Louis Vuitton
- Maison Francis Kurkdjian (MFK)
- Make Up For Ever
- Moynat
- Officine Universelle Buly
- Ole Henriksen
- Patou
- Pucci
- Repossi
- RIMOWA
- STELLA by Stella McCartney
- TAG Heuer
- Tiffany & Co.
- Vuarnet
- Zenith
บล็อกยอดนิยม
ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องสำอางและน้ำหอม
- Batch Code คืออะไร Batch Code หรือ "รหัสแบทช์" คือตัวระบุเฉพาะที่ใช้ในการติดตามกลุ่มสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในช่วงเวลาเดียวกัน มันช่วยให้ผู้ผลิตสามารถติดตามและระบุแหล่งที่มาของสินค้าได้อย่างแม่นยำ เมื่อเกิดปัญหาหรือข้อกังวลด้านคุณภาพ รหัสแบทช์มักจะประกอบด้วยตัวอักษร ตัวเลข หรือทั้งสองอย่างผสมกัน ซึ่งบ่งบอกถึงข้อมูลสำคัญ เช่น วันที่ผลิต สถานที่ผลิต หรือหมายเลขกะการผลิต ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้สามารถระบุและแยกแยะผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งได้อย่างชัดเจน การใช้รหัสแบทช์เป็นสิ่งสำคัญในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อาหารและยา เพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์มีคุณภาพและปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค นอกจากนี้ยังช่วยอำนวยความสะดวกในการเรียกคืนสินค้า หากพบปัญหาหรือข้อบกพร่องในภายหลัง
- ฉันจะแปลเนื้อหาด้านล่างเป็นภาษาไทยตามคำแนะนำของคุณ โดยจะแปลสองครั้ง ครั้งแรกจะแปลตรงตัวตามเนื้อหา และครั้งที่สองจะถ่ายทอดความหมายใหม่ให้เข้าใจง่ายและสอดคล้องกับวิธีการแสดงออกของภาษาไทย โดยยึดตามความหมายเดิม ฉันจะเว้นวรรคก่อนและหลังชื่อแบรนด์และผลิตภัณฑ์ที่เป็นภาษาอังกฤษ และจะรักษารูปแบบ markdown ไว้ โดยจะไม่ขยายเนื้อหาเพิ่มเติม ต่อไปนี้คือผลลัพธ์การแปลครั้งที่สองเป็นภาษาไทย: จะหารหัสแบทช์บนเครื่องสำอางและน้ำหอมของคุณได้ที่ไหน?
- วิธีตรวจสอบวันหมดอายุของเครื่องสำอางและน้ำหอม เครื่องสำอางและน้ำหอมเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีอายุการใช้งาน ถ้าใช้เกินวันหมดอายุอาจส่งผลเสียต่อผิวหนังได้ เพื่อความปลอดภัย เราควรตรวจสอบวันหมดอายุก่อนซื้อและใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้เสมอ โดยดูจากสัญลักษณ์รูปโหลเปิดฝา ซึ่งจะระบุอายุการใช้งานหลังเปิดใช้ เช่น 12M หมายถึงใช้ได้นาน 12 เดือนหลังเปิดฝา หรือสังเกตจากวันที่ผลิตและวันหมดอายุที่ระบุบนบรรจุภัณฑ์ เมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ให้สังเกตการเปลี่ยนแปลงของสี กลิ่น เนื้อสัมผัส หากพบความผิดปกติควรหยุดใช้ทันที เพื่อให้ใช้เครื่องสำอางและน้ำหอมได้อย่างปลอดภัย อย่าลืมเช็กวันหมดอายุก่อนซื้อและใช้งานนะคะ