วิธีการค้นหารหัสแบทช์ของ Officine Universelle Buly
การค้นหารหัสแบทช์บนเครื่องสำอางหรือน้ำหอมของ Officine Universelle Buly มีขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้:
-
ตรวจสอบบรรจุภัณฑ์: ในเบื้องต้น ให้ดูที่บรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์เพื่อหาชุดตัวอักษรและตัวเลข ซึ่งเป็นรหัสแบทช์ โดยอาจอยู่บนกล่องที่ใช้บรรจุผลิตภัณฑ์หรืออยู่บนตัวบรรจุภัณฑ์ผลิตภัณฑ์โดยตรง
-
บรรจุภัณฑ์ผลิตภัณฑ์: หากไม่มีกล่องแล้ว ให้ตรวจสอบบรรจุภัณฑ์ผลิตภัณฑ์ รหัสแบทช์อาจพิมพ์หรือปั๊มอยู่ที่ด้านล่าง ด้านหลัง หรือตามขอบของบรรจุภัณฑ์
-
มองหาสัญลักษณ์: บางครั้งรหัสแบทช์จะอยู่ใกล้กับสัญลักษณ์ เช่น สัญลักษณ์ระยะเวลาหลังเปิดใช้ (PAO) ไอคอนรูปโถเปิดที่ระบุว่าผลิตภัณฑ์ปลอดภัยในการใช้งานนานเท่าใดหลังจากเปิดแล้ว
-
ตรวจสอบอย่างละเอียด: เนื่องจากรหัสแบทช์อาจมีขนาดตัวอักษรเล็กหรืออยู่ในบริเวณที่ไม่เด่นชัด ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีแสงสว่างเพียงพอ แว่นขยายอาจช่วยให้มองเห็นรหัสได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
-
ฉลากผลิตภัณฑ์: ในบางครั้ง รหัสแบทช์อาจอยู่บนสติ๊กเกอร์หรือฉลากที่ติดอยู่กับผลิตภัณฑ์ แทนที่จะพิมพ์โดยตรงบนบรรจุภัณฑ์
หากพบว่าการค้นหาหรือตีความรหัสแบทช์เป็นเรื่องยาก แนะนำให้ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าของ Officine Universelle Buly เพื่อขอความช่วยเหลือ พวกเขาสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกตามรหัสแบทช์ ช่วยให้คุณทราบวันที่ผลิตของผลิตภัณฑ์และรับรองความสดใหม่และของแท้
เกี่ยวกับ Officine Universelle Buly
Officine Universelle Buly เป็นแบรนด์ความงามหรูจากปารีสที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ก่อตั้งขึ้นในปี 1803 โดย Jean-Vincent Bully ในปี 2014 แบรนด์นี้ถูกฟื้นคืนชีพภายใต้การดูแลของ LVMH โดยยังคงรักษาจุดยืนในการให้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวคุณภาพสูงจากธรรมชาติ พร้อมทั้งผสมผสานเทคนิคสมัยใหม่และการวิจัยทางวิทยาศาสตร์
ผลิตภัณฑ์เด่นของแบรนด์คือ 'Grand Vermillionaire' ซึ่งเป็นครีมบำรุงผิวหน้าที่เป็นที่รู้จักตั้งแต่เริ่มแรก สูตรเข้มข้นนี้ประกอบด้วยส่วนผสมอย่างเช่น มะลิ กุหลาบ และไอริส ที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นและฟื้นฟูผิว อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจคือ 'Eau Triple' ซึ่งเป็นน้ำหอมที่ผสมกับน้ำมันหอมระเหย ใช้ได้ทั้งเป็นน้ำหอมและโทนเนอร์
Officine Universelle Buly มีชื่อเสียงโด่งดังในตลาดความงามระดับโลก ความมุ่งมั่นในการใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติพร้อมกับบรรจุภัณฑ์และการนำเสนอที่เป็นเอกลักษณ์ทำให้แบรนด์นี้โดดเด่นจากคู่แข่ง แม้จะเป็นส่วนหนึ่งของพอร์ตโฟลิโอขนาดใหญ่ของ LVMH แต่ Buly ยังคงรักษาภาพลักษณ์ที่เป็นอิสระ สะท้อนความต้องการของผู้บริโภคที่มองหาความแท้จริงและฝีมือช่างในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว
สำรวจแบรนด์เพิ่มเติมโดย LVMH Moët Hennessy Louis Vuitton SE
ตรวจสอบวันที่ผลิตของเครื่องสำอางและน้ำหอมของคุณตอนนี้
- Acqua Di Parma (ADP)
- Benefit Cosmetics
- Berluti
- BITE Beauty
- Bvlgari
- Céline
- Cha Ling
- Chaumet
- Christian Dior
- Fendi
- Fenty Beauty by Rihanna
- Fred
- Fresh
- Givenchy
- Guerlain
- Hublot
- Kenzo
- KVD Vegan Beauty
- Loewe
- Loro Piana
- Louis Vuitton
- Maison Francis Kurkdjian (MFK)
- Make Up For Ever
- Moynat
- Officine Universelle Buly
- Ole Henriksen
- Patou
- Pucci
- Repossi
- RIMOWA
- STELLA by Stella McCartney
- TAG Heuer
- Tiffany & Co.
- Vuarnet
- Zenith
บล็อกยอดนิยม
ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องสำอางและน้ำหอม
- Batch Code คืออะไร Batch Code หรือ "รหัสแบทช์" คือตัวระบุเฉพาะที่ใช้ในการติดตามกลุ่มสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในช่วงเวลาเดียวกัน มันช่วยให้ผู้ผลิตสามารถติดตามและระบุแหล่งที่มาของสินค้าได้อย่างแม่นยำ เมื่อเกิดปัญหาหรือข้อกังวลด้านคุณภาพ รหัสแบทช์มักจะประกอบด้วยตัวอักษร ตัวเลข หรือทั้งสองอย่างผสมกัน ซึ่งบ่งบอกถึงข้อมูลสำคัญ เช่น วันที่ผลิต สถานที่ผลิต หรือหมายเลขกะการผลิต ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้สามารถระบุและแยกแยะผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งได้อย่างชัดเจน การใช้รหัสแบทช์เป็นสิ่งสำคัญในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อาหารและยา เพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์มีคุณภาพและปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค นอกจากนี้ยังช่วยอำนวยความสะดวกในการเรียกคืนสินค้า หากพบปัญหาหรือข้อบกพร่องในภายหลัง
- ฉันจะแปลเนื้อหาด้านล่างเป็นภาษาไทยตามคำแนะนำของคุณ โดยจะแปลสองครั้ง ครั้งแรกจะแปลตรงตัวตามเนื้อหา และครั้งที่สองจะถ่ายทอดความหมายใหม่ให้เข้าใจง่ายและสอดคล้องกับวิธีการแสดงออกของภาษาไทย โดยยึดตามความหมายเดิม ฉันจะเว้นวรรคก่อนและหลังชื่อแบรนด์และผลิตภัณฑ์ที่เป็นภาษาอังกฤษ และจะรักษารูปแบบ markdown ไว้ โดยจะไม่ขยายเนื้อหาเพิ่มเติม ต่อไปนี้คือผลลัพธ์การแปลครั้งที่สองเป็นภาษาไทย: จะหารหัสแบทช์บนเครื่องสำอางและน้ำหอมของคุณได้ที่ไหน?
- วิธีตรวจสอบวันหมดอายุของเครื่องสำอางและน้ำหอม เครื่องสำอางและน้ำหอมเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีอายุการใช้งาน ถ้าใช้เกินวันหมดอายุอาจส่งผลเสียต่อผิวหนังได้ เพื่อความปลอดภัย เราควรตรวจสอบวันหมดอายุก่อนซื้อและใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้เสมอ โดยดูจากสัญลักษณ์รูปโหลเปิดฝา ซึ่งจะระบุอายุการใช้งานหลังเปิดใช้ เช่น 12M หมายถึงใช้ได้นาน 12 เดือนหลังเปิดฝา หรือสังเกตจากวันที่ผลิตและวันหมดอายุที่ระบุบนบรรจุภัณฑ์ เมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ให้สังเกตการเปลี่ยนแปลงของสี กลิ่น เนื้อสัมผัส หากพบความผิดปกติควรหยุดใช้ทันที เพื่อให้ใช้เครื่องสำอางและน้ำหอมได้อย่างปลอดภัย อย่าลืมเช็กวันหมดอายุก่อนซื้อและใช้งานนะคะ