วิธีการค้นหารหัสแบทช์ของ Lancôme
การค้นหารหัสแบทช์บนเครื่องสำอางหรือน้ำหอมของ Lancôme มีขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้:
-
ตรวจสอบบรรจุภัณฑ์: ในเบื้องต้น ให้ดูที่บรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์เพื่อหาชุดตัวอักษรและตัวเลข ซึ่งเป็นรหัสแบทช์ โดยอาจอยู่บนกล่องที่ใช้บรรจุผลิตภัณฑ์หรืออยู่บนตัวบรรจุภัณฑ์ผลิตภัณฑ์โดยตรง
-
บรรจุภัณฑ์ผลิตภัณฑ์: หากไม่มีกล่องแล้ว ให้ตรวจสอบบรรจุภัณฑ์ผลิตภัณฑ์ รหัสแบทช์อาจพิมพ์หรือปั๊มอยู่ที่ด้านล่าง ด้านหลัง หรือตามขอบของบรรจุภัณฑ์
-
มองหาสัญลักษณ์: บางครั้งรหัสแบทช์จะอยู่ใกล้กับสัญลักษณ์ เช่น สัญลักษณ์ระยะเวลาหลังเปิดใช้ (PAO) ไอคอนรูปโถเปิดที่ระบุว่าผลิตภัณฑ์ปลอดภัยในการใช้งานนานเท่าใดหลังจากเปิดแล้ว
-
ตรวจสอบอย่างละเอียด: เนื่องจากรหัสแบทช์อาจมีขนาดตัวอักษรเล็กหรืออยู่ในบริเวณที่ไม่เด่นชัด ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีแสงสว่างเพียงพอ แว่นขยายอาจช่วยให้มองเห็นรหัสได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
-
ฉลากผลิตภัณฑ์: ในบางครั้ง รหัสแบทช์อาจอยู่บนสติ๊กเกอร์หรือฉลากที่ติดอยู่กับผลิตภัณฑ์ แทนที่จะพิมพ์โดยตรงบนบรรจุภัณฑ์
หากพบว่าการค้นหาหรือตีความรหัสแบทช์เป็นเรื่องยาก แนะนำให้ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าของ Lancôme เพื่อขอความช่วยเหลือ พวกเขาสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกตามรหัสแบทช์ ช่วยให้คุณทราบวันที่ผลิตของผลิตภัณฑ์และรับรองความสดใหม่และของแท้
เกี่ยวกับ Lancôme
ก่อตั้งขึ้นในปี 1909 โดย Eugène Schueller, L'Oréal ได้เติบโตขึ้นจนกลายเป็นบริษัทเครื่องสำอางที่ใหญ่ที่สุดในโลก ภายใต้บริษัทแม่ L'Oréal S.A. ซึ่งมีแบรนด์มากมายรวมถึง Lancôme ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 1935 โดยนักปรุงน้ำหอมที่มีวิสัยทัศน์ Armand Petitjean ภารกิจของ Lancôme คือการเพิ่มความงามให้กับผู้หญิงผ่านผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ Lancôme มีชื่อเสียงในด้านผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณ เครื่องสำอาง และน้ำหอมที่หรูหรา ซึ่งทำให้ยังคงเป็นผู้เล่นหลักในตลาดความงามระดับโลก
การเติบโตของ L'Oréal มาจากการขยายตัวอย่างมียุทธศาสตร์ การเข้าสู่ตลาดต่างประเทศ และการเข้าซื้อแบรนด์ต่าง ๆ รวมถึงการซื้อ Lancôme ในช่วงปลายทศวรรษ 1960 การใช้ประโยชน์จากความร่วมมือระหว่างบริษัทในเครือทำให้ L'Oréal มีการเติบโตของกำไรอย่างมีนัยสำคัญตลอดช่วงปลายทศวรรษ 1980 และต้นทศวรรษ 1990 ปัจจุบัน L'Oréal มีพอร์ตโฟลิโอที่หลากหลายของแบรนด์ที่ตอบสนองกลุ่มผู้บริโภคและตลาดต่าง ๆ ทั่วโลก
พื้นฐานของความสำเร็จของ L'Oréal คือความมุ่งมั่นในการวิจัย นวัตกรรม และความยั่งยืน การมุ่งเน้นในการใช้เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ทำให้สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นและรักษาตำแหน่งในฐานะผู้นำในอุตสาหกรรมได้ นอกจากนี้ L'Oréal ยังยอมรับความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กรโดยการริเริ่มโครงการที่มุ่งลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมให้ผู้บริโภคมีทางเลือกที่ยั่งยืน
สำรวจแบรนด์เพิ่มเติมโดย L'Oréal S.A.
ตรวจสอบวันที่ผลิตของเครื่องสำอางและน้ำหอมของคุณตอนนี้
- 3CE Stylenanda
- AcneFree
- Aēsop
- Ambi Skincare
- Atelier Cologne Paris
- Azzaro
- Biotherm
- Botanicals
- Cacharel
- Carita
- Carol's Daughter
- CeraVe
- Cheryl's Cosmeceuticals
- Colorama
- Créateurs de Beauté
- Dark & Lovely
- Decléor
- Diesel
- Essie
- Garnier
- Giorgio Armani Beauty
- Guy Laroche
- Helena Rubinstein (HR)
- House 99
- IT Cosmetics
- Kéraskin Esthetics
- Kérastase
- Kiehl's Since 1851
- L'Oréal Paris
- La Roche-Posay
- Lancôme
- Logocos
- Magic Mask
- Maison Margiela Paris
- Matrix
- Maybelline New York
- Mixa
- Mizani
- MUGLER
- Niely
- NYX Professional Makeup
- Paloma Picasso
- Prada
- Proenza Schouler
- Pulp Riot
- PureOlogy
- Ralph Lauren
- Redken
- Shu Uemura
- Skinbetter Science
- SkinCeuticals
- SoftSheen-Carson
- Takami
- Urban Decay
- Valentino
- Vichy
- Viktor & Rolf
- Youth to the People
- Yue Sai
- Yves Saint Laurent Beauté (YSL)
บล็อกยอดนิยม
ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องสำอางและน้ำหอม
- Batch Code คืออะไร Batch Code หรือ "รหัสแบทช์" คือตัวระบุเฉพาะที่ใช้ในการติดตามกลุ่มสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในช่วงเวลาเดียวกัน มันช่วยให้ผู้ผลิตสามารถติดตามและระบุแหล่งที่มาของสินค้าได้อย่างแม่นยำ เมื่อเกิดปัญหาหรือข้อกังวลด้านคุณภาพ รหัสแบทช์มักจะประกอบด้วยตัวอักษร ตัวเลข หรือทั้งสองอย่างผสมกัน ซึ่งบ่งบอกถึงข้อมูลสำคัญ เช่น วันที่ผลิต สถานที่ผลิต หรือหมายเลขกะการผลิต ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้สามารถระบุและแยกแยะผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งได้อย่างชัดเจน การใช้รหัสแบทช์เป็นสิ่งสำคัญในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อาหารและยา เพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์มีคุณภาพและปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค นอกจากนี้ยังช่วยอำนวยความสะดวกในการเรียกคืนสินค้า หากพบปัญหาหรือข้อบกพร่องในภายหลัง
- ฉันจะแปลเนื้อหาด้านล่างเป็นภาษาไทยตามคำแนะนำของคุณ โดยจะแปลสองครั้ง ครั้งแรกจะแปลตรงตัวตามเนื้อหา และครั้งที่สองจะถ่ายทอดความหมายใหม่ให้เข้าใจง่ายและสอดคล้องกับวิธีการแสดงออกของภาษาไทย โดยยึดตามความหมายเดิม ฉันจะเว้นวรรคก่อนและหลังชื่อแบรนด์และผลิตภัณฑ์ที่เป็นภาษาอังกฤษ และจะรักษารูปแบบ markdown ไว้ โดยจะไม่ขยายเนื้อหาเพิ่มเติม ต่อไปนี้คือผลลัพธ์การแปลครั้งที่สองเป็นภาษาไทย: จะหารหัสแบทช์บนเครื่องสำอางและน้ำหอมของคุณได้ที่ไหน?
- วิธีตรวจสอบวันหมดอายุของเครื่องสำอางและน้ำหอม เครื่องสำอางและน้ำหอมเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีอายุการใช้งาน ถ้าใช้เกินวันหมดอายุอาจส่งผลเสียต่อผิวหนังได้ เพื่อความปลอดภัย เราควรตรวจสอบวันหมดอายุก่อนซื้อและใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้เสมอ โดยดูจากสัญลักษณ์รูปโหลเปิดฝา ซึ่งจะระบุอายุการใช้งานหลังเปิดใช้ เช่น 12M หมายถึงใช้ได้นาน 12 เดือนหลังเปิดฝา หรือสังเกตจากวันที่ผลิตและวันหมดอายุที่ระบุบนบรรจุภัณฑ์ เมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ให้สังเกตการเปลี่ยนแปลงของสี กลิ่น เนื้อสัมผัส หากพบความผิดปกติควรหยุดใช้ทันที เพื่อให้ใช้เครื่องสำอางและน้ำหอมได้อย่างปลอดภัย อย่าลืมเช็กวันหมดอายุก่อนซื้อและใช้งานนะคะ