วิธีการค้นหารหัสแบทช์ของ Fresh
การค้นหารหัสแบทช์บนเครื่องสำอางหรือน้ำหอมของ Fresh มีขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้:
-
ตรวจสอบบรรจุภัณฑ์: ในเบื้องต้น ให้ดูที่บรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์เพื่อหาชุดตัวอักษรและตัวเลข ซึ่งเป็นรหัสแบทช์ โดยอาจอยู่บนกล่องที่ใช้บรรจุผลิตภัณฑ์หรืออยู่บนตัวบรรจุภัณฑ์ผลิตภัณฑ์โดยตรง
-
บรรจุภัณฑ์ผลิตภัณฑ์: หากไม่มีกล่องแล้ว ให้ตรวจสอบบรรจุภัณฑ์ผลิตภัณฑ์ รหัสแบทช์อาจพิมพ์หรือปั๊มอยู่ที่ด้านล่าง ด้านหลัง หรือตามขอบของบรรจุภัณฑ์
-
มองหาสัญลักษณ์: บางครั้งรหัสแบทช์จะอยู่ใกล้กับสัญลักษณ์ เช่น สัญลักษณ์ระยะเวลาหลังเปิดใช้ (PAO) ไอคอนรูปโถเปิดที่ระบุว่าผลิตภัณฑ์ปลอดภัยในการใช้งานนานเท่าใดหลังจากเปิดแล้ว
-
ตรวจสอบอย่างละเอียด: เนื่องจากรหัสแบทช์อาจมีขนาดตัวอักษรเล็กหรืออยู่ในบริเวณที่ไม่เด่นชัด ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีแสงสว่างเพียงพอ แว่นขยายอาจช่วยให้มองเห็นรหัสได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
-
ฉลากผลิตภัณฑ์: ในบางครั้ง รหัสแบทช์อาจอยู่บนสติ๊กเกอร์หรือฉลากที่ติดอยู่กับผลิตภัณฑ์ แทนที่จะพิมพ์โดยตรงบนบรรจุภัณฑ์
หากพบว่าการค้นหาหรือตีความรหัสแบทช์เป็นเรื่องยาก แนะนำให้ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าของ Fresh เพื่อขอความช่วยเหลือ พวกเขาสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกตามรหัสแบทช์ ช่วยให้คุณทราบวันที่ผลิตของผลิตภัณฑ์และรับรองความสดใหม่และของแท้
เกี่ยวกับ Fresh
Fresh ก่อตั้งขึ้นในปี 1991 โดย Lev Glazman และ Alina Roytberg เป็นแบรนด์สกินแคร์หรูชั้นนำที่รู้จักกันดีในเรื่องส่วนผสมจากธรรมชาติและความประณีตในการผลิต จุดเริ่มต้นของแบรนด์มาจากเมืองบอสตันที่ผู้ก่อตั้งมุ่งเน้นค้นหาผลิตภัณฑ์ความงามที่มีประสิทธิภาพและหรูหรา นำไปสู่การสร้างสายผลิตภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Fresh ที่ครอบคลุมทั้งสกินแคร์ ลิปแคร์ บอดี้แคร์ และน้ำหอม Fresh ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ วัฒนธรรม และการเดินทาง โดยผสมผสานส่วนผสมจากธรรมชาติที่ทรงพลังกับเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อมอบโซลูชันสกินแคร์ที่ยอดเยี่ยม
ผลิตภัณฑ์หลักของแบรนด์คือ Vitamin Nectar ซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์สกินแคร์ที่มีสูตรนวัตกรรมที่อิงจากวิตามิน สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ Fresh ในการใช้วิธีการเสริมความงามจากธรรมชาติ เปิดตัวในปี 2016 Vitamin Nectar มีเนื้อสัมผัสและส่วนผสมที่แปลกใหม่ เริ่มจาก Vibrancy-Boosting Face Mask ที่อุดมไปด้วยวิตามิน C, E, และ B5 พร้อมด้วยสารสกัดจากผลไม้ตระกูลส้มเพื่อประโยชน์ต่อผิวทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
Fresh มีการตลาดที่แข็งแกร่งด้วยร้านค้าจำนวน 2,771 แห่งและผลิตภัณฑ์กว่า 225 รายการ รวมถึงร้าน Fresh 48 แห่งทั่วโลก ความมุ่งมั่นของแบรนด์ในการจัดหาทรัพยากรอย่างรับผิดชอบ การออกแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การดำเนินการด้านสภาพอากาศ และการมีส่วนร่วมของชุมชนทำให้ได้รับการยอมรับว่าเป็นแบรนด์ LVMH Maisons แรกที่เข้าร่วม Union for Ethical BioTrade (UEBT) การร่วมมือครั้งนี้มุ่งเน้นที่จะส่งผลบวกต่อชุมชนท้องถิ่นด้วยการปรับปรุงวิธีการและรับประกันการจัดหาทรัพยากรที่มีจริยธรรมของส่วนผสมสำคัญในสกินแคร์ รวมถึงการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศและบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและการดำเนินธุรกิจที่มีจริยธรรม Fresh ยังคงเติบโตเป็นแบรนด์ความงามที่รักของผู้คนทั่วโลก
สำรวจแบรนด์เพิ่มเติมโดย LVMH Moët Hennessy Louis Vuitton SE
ตรวจสอบวันที่ผลิตของเครื่องสำอางและน้ำหอมของคุณตอนนี้
- Acqua Di Parma (ADP)
- Benefit Cosmetics
- Berluti
- BITE Beauty
- Bvlgari
- Céline
- Cha Ling
- Chaumet
- Christian Dior
- Fendi
- Fenty Beauty by Rihanna
- Fred
- Fresh
- Givenchy
- Guerlain
- Hublot
- Kenzo
- KVD Vegan Beauty
- Loewe
- Loro Piana
- Louis Vuitton
- Maison Francis Kurkdjian (MFK)
- Make Up For Ever
- Moynat
- Officine Universelle Buly
- Ole Henriksen
- Patou
- Pucci
- Repossi
- RIMOWA
- STELLA by Stella McCartney
- TAG Heuer
- Tiffany & Co.
- Vuarnet
- Zenith
บล็อกยอดนิยม
ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องสำอางและน้ำหอม
- Batch Code คืออะไร Batch Code หรือ "รหัสแบทช์" คือตัวระบุเฉพาะที่ใช้ในการติดตามกลุ่มสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในช่วงเวลาเดียวกัน มันช่วยให้ผู้ผลิตสามารถติดตามและระบุแหล่งที่มาของสินค้าได้อย่างแม่นยำ เมื่อเกิดปัญหาหรือข้อกังวลด้านคุณภาพ รหัสแบทช์มักจะประกอบด้วยตัวอักษร ตัวเลข หรือทั้งสองอย่างผสมกัน ซึ่งบ่งบอกถึงข้อมูลสำคัญ เช่น วันที่ผลิต สถานที่ผลิต หรือหมายเลขกะการผลิต ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้สามารถระบุและแยกแยะผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งได้อย่างชัดเจน การใช้รหัสแบทช์เป็นสิ่งสำคัญในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อาหารและยา เพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์มีคุณภาพและปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค นอกจากนี้ยังช่วยอำนวยความสะดวกในการเรียกคืนสินค้า หากพบปัญหาหรือข้อบกพร่องในภายหลัง
- ฉันจะแปลเนื้อหาด้านล่างเป็นภาษาไทยตามคำแนะนำของคุณ โดยจะแปลสองครั้ง ครั้งแรกจะแปลตรงตัวตามเนื้อหา และครั้งที่สองจะถ่ายทอดความหมายใหม่ให้เข้าใจง่ายและสอดคล้องกับวิธีการแสดงออกของภาษาไทย โดยยึดตามความหมายเดิม ฉันจะเว้นวรรคก่อนและหลังชื่อแบรนด์และผลิตภัณฑ์ที่เป็นภาษาอังกฤษ และจะรักษารูปแบบ markdown ไว้ โดยจะไม่ขยายเนื้อหาเพิ่มเติม ต่อไปนี้คือผลลัพธ์การแปลครั้งที่สองเป็นภาษาไทย: จะหารหัสแบทช์บนเครื่องสำอางและน้ำหอมของคุณได้ที่ไหน?
- วิธีตรวจสอบวันหมดอายุของเครื่องสำอางและน้ำหอม เครื่องสำอางและน้ำหอมเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีอายุการใช้งาน ถ้าใช้เกินวันหมดอายุอาจส่งผลเสียต่อผิวหนังได้ เพื่อความปลอดภัย เราควรตรวจสอบวันหมดอายุก่อนซื้อและใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้เสมอ โดยดูจากสัญลักษณ์รูปโหลเปิดฝา ซึ่งจะระบุอายุการใช้งานหลังเปิดใช้ เช่น 12M หมายถึงใช้ได้นาน 12 เดือนหลังเปิดฝา หรือสังเกตจากวันที่ผลิตและวันหมดอายุที่ระบุบนบรรจุภัณฑ์ เมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ให้สังเกตการเปลี่ยนแปลงของสี กลิ่น เนื้อสัมผัส หากพบความผิดปกติควรหยุดใช้ทันที เพื่อให้ใช้เครื่องสำอางและน้ำหอมได้อย่างปลอดภัย อย่าลืมเช็กวันหมดอายุก่อนซื้อและใช้งานนะคะ