วิธีการค้นหารหัสแบทช์ของ Escada
การค้นหารหัสแบทช์บนเครื่องสำอางหรือน้ำหอมของ Escada มีขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้:
-
ตรวจสอบบรรจุภัณฑ์: ในเบื้องต้น ให้ดูที่บรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์เพื่อหาชุดตัวอักษรและตัวเลข ซึ่งเป็นรหัสแบทช์ โดยอาจอยู่บนกล่องที่ใช้บรรจุผลิตภัณฑ์หรืออยู่บนตัวบรรจุภัณฑ์ผลิตภัณฑ์โดยตรง
-
บรรจุภัณฑ์ผลิตภัณฑ์: หากไม่มีกล่องแล้ว ให้ตรวจสอบบรรจุภัณฑ์ผลิตภัณฑ์ รหัสแบทช์อาจพิมพ์หรือปั๊มอยู่ที่ด้านล่าง ด้านหลัง หรือตามขอบของบรรจุภัณฑ์
-
มองหาสัญลักษณ์: บางครั้งรหัสแบทช์จะอยู่ใกล้กับสัญลักษณ์ เช่น สัญลักษณ์ระยะเวลาหลังเปิดใช้ (PAO) ไอคอนรูปโถเปิดที่ระบุว่าผลิตภัณฑ์ปลอดภัยในการใช้งานนานเท่าใดหลังจากเปิดแล้ว
-
ตรวจสอบอย่างละเอียด: เนื่องจากรหัสแบทช์อาจมีขนาดตัวอักษรเล็กหรืออยู่ในบริเวณที่ไม่เด่นชัด ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีแสงสว่างเพียงพอ แว่นขยายอาจช่วยให้มองเห็นรหัสได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
-
ฉลากผลิตภัณฑ์: ในบางครั้ง รหัสแบทช์อาจอยู่บนสติ๊กเกอร์หรือฉลากที่ติดอยู่กับผลิตภัณฑ์ แทนที่จะพิมพ์โดยตรงบนบรรจุภัณฑ์
หากพบว่าการค้นหาหรือตีความรหัสแบทช์เป็นเรื่องยาก แนะนำให้ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าของ Escada เพื่อขอความช่วยเหลือ พวกเขาสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกตามรหัสแบทช์ ช่วยให้คุณทราบวันที่ผลิตของผลิตภัณฑ์และรับรองความสดใหม่และของแท้
เกี่ยวกับ Escada
ESCADA บริษัทแฟชั่นชั้นนำที่ก่อตั้งขึ้นในเมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี ได้ขยายขอบเขตสู่โลกของน้ำหอม โดยนำเสนอกลิ่นหอมหลากหลายสำหรับสุภาพสตรีตั้งแต่ปี 1990
ผลิตภัณฑ์ยอดนิยมของ ESCADA ได้แก่ Brisa Cubana Eau de Toilette สำหรับผู้หญิง, Santorini Sunrise Eau de Toilette และ Show Me Love Eau de Parfum สำหรับผู้หญิง Brisa Cubana จับเอาแก่นแท้ของน้ำมันมินต์สดและดอกไม้ประจำชาติคิวบา mariposa ในขณะที่ Santorini Sunrise มีส่วนผสมจากพืชด้วยส้มแมนดาริน, ซอร์เบต์เบอร์กาม็อต, กลีบดอกมะลิ และพริกไทยสีชมพู Show Me Love โดดเด่นด้วยขวดรูปหัวใจ ผสมผสานโน้ตบลูเบอร์รี่ฉ่ำ, ดอกมะลิเย้ายวน และบลูเบอร์รี่มาการองแอคคอร์ด
สายน้ำหอมของ ESCADA แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายของกลิ่นที่น่าประทับใจเพื่อตอบสนองความชอบที่แตกต่างกัน ความมุ่งมั่นในคุณภาพและนวัตกรรมเห็นได้ชัดผ่านส่วนผสมที่ไม่เหมือนใครและบรรจุภัณฑ์ที่ใส่ใจ ทำให้ ESCADA เป็นผู้เล่นที่โดดเด่นในอุตสาหกรรมน้ำหอม
สำรวจแบรนด์เพิ่มเติมโดย Coty Inc.
ตรวจสอบวันที่ผลิตของเครื่องสำอางและน้ำหอมของคุณตอนนี้
- Adidas
- Bourjois
- Bozzano
- Bruno Banani
- Burberry
- Calvin Klein
- Cenoura & Bronze
- Chloé
- Covergirl
- David Beckham
- Davidoff
- Escada
- Etro
- Gabriela Sabatini
- Gucci
- Hugo Boss
- Infiniment Coty Paris
- Jil Sander
- Joop!
- Katy Perry
- Kylie Baby
- Kylie Cosmetics
- Kylie Skin
- Lancaster
- Manhattan
- Marc Jacobs
- Marni
- Max Factor
- Mexx
- Miss Sporty
- Monange
- Nautica
- Orveda
- Paixão
- Philosophy
- Rimmel
- Risqué
- Sally Hansen
- Skkn
- Vera Wang
บล็อกยอดนิยม
ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องสำอางและน้ำหอม
- Batch Code คืออะไร Batch Code หรือ "รหัสแบทช์" คือตัวระบุเฉพาะที่ใช้ในการติดตามกลุ่มสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในช่วงเวลาเดียวกัน มันช่วยให้ผู้ผลิตสามารถติดตามและระบุแหล่งที่มาของสินค้าได้อย่างแม่นยำ เมื่อเกิดปัญหาหรือข้อกังวลด้านคุณภาพ รหัสแบทช์มักจะประกอบด้วยตัวอักษร ตัวเลข หรือทั้งสองอย่างผสมกัน ซึ่งบ่งบอกถึงข้อมูลสำคัญ เช่น วันที่ผลิต สถานที่ผลิต หรือหมายเลขกะการผลิต ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้สามารถระบุและแยกแยะผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งได้อย่างชัดเจน การใช้รหัสแบทช์เป็นสิ่งสำคัญในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อาหารและยา เพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์มีคุณภาพและปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค นอกจากนี้ยังช่วยอำนวยความสะดวกในการเรียกคืนสินค้า หากพบปัญหาหรือข้อบกพร่องในภายหลัง
- ฉันจะแปลเนื้อหาด้านล่างเป็นภาษาไทยตามคำแนะนำของคุณ โดยจะแปลสองครั้ง ครั้งแรกจะแปลตรงตัวตามเนื้อหา และครั้งที่สองจะถ่ายทอดความหมายใหม่ให้เข้าใจง่ายและสอดคล้องกับวิธีการแสดงออกของภาษาไทย โดยยึดตามความหมายเดิม ฉันจะเว้นวรรคก่อนและหลังชื่อแบรนด์และผลิตภัณฑ์ที่เป็นภาษาอังกฤษ และจะรักษารูปแบบ markdown ไว้ โดยจะไม่ขยายเนื้อหาเพิ่มเติม ต่อไปนี้คือผลลัพธ์การแปลครั้งที่สองเป็นภาษาไทย: จะหารหัสแบทช์บนเครื่องสำอางและน้ำหอมของคุณได้ที่ไหน?
- วิธีตรวจสอบวันหมดอายุของเครื่องสำอางและน้ำหอม เครื่องสำอางและน้ำหอมเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีอายุการใช้งาน ถ้าใช้เกินวันหมดอายุอาจส่งผลเสียต่อผิวหนังได้ เพื่อความปลอดภัย เราควรตรวจสอบวันหมดอายุก่อนซื้อและใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้เสมอ โดยดูจากสัญลักษณ์รูปโหลเปิดฝา ซึ่งจะระบุอายุการใช้งานหลังเปิดใช้ เช่น 12M หมายถึงใช้ได้นาน 12 เดือนหลังเปิดฝา หรือสังเกตจากวันที่ผลิตและวันหมดอายุที่ระบุบนบรรจุภัณฑ์ เมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ให้สังเกตการเปลี่ยนแปลงของสี กลิ่น เนื้อสัมผัส หากพบความผิดปกติควรหยุดใช้ทันที เพื่อให้ใช้เครื่องสำอางและน้ำหอมได้อย่างปลอดภัย อย่าลืมเช็กวันหมดอายุก่อนซื้อและใช้งานนะคะ