วิธีการค้นหารหัสแบทช์ของ Dove
การค้นหารหัสแบทช์บนเครื่องสำอางหรือน้ำหอมของ Dove มีขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้:
-
ตรวจสอบบรรจุภัณฑ์: ในเบื้องต้น ให้ดูที่บรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์เพื่อหาชุดตัวอักษรและตัวเลข ซึ่งเป็นรหัสแบทช์ โดยอาจอยู่บนกล่องที่ใช้บรรจุผลิตภัณฑ์หรืออยู่บนตัวบรรจุภัณฑ์ผลิตภัณฑ์โดยตรง
-
บรรจุภัณฑ์ผลิตภัณฑ์: หากไม่มีกล่องแล้ว ให้ตรวจสอบบรรจุภัณฑ์ผลิตภัณฑ์ รหัสแบทช์อาจพิมพ์หรือปั๊มอยู่ที่ด้านล่าง ด้านหลัง หรือตามขอบของบรรจุภัณฑ์
-
มองหาสัญลักษณ์: บางครั้งรหัสแบทช์จะอยู่ใกล้กับสัญลักษณ์ เช่น สัญลักษณ์ระยะเวลาหลังเปิดใช้ (PAO) ไอคอนรูปโถเปิดที่ระบุว่าผลิตภัณฑ์ปลอดภัยในการใช้งานนานเท่าใดหลังจากเปิดแล้ว
-
ตรวจสอบอย่างละเอียด: เนื่องจากรหัสแบทช์อาจมีขนาดตัวอักษรเล็กหรืออยู่ในบริเวณที่ไม่เด่นชัด ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีแสงสว่างเพียงพอ แว่นขยายอาจช่วยให้มองเห็นรหัสได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
-
ฉลากผลิตภัณฑ์: ในบางครั้ง รหัสแบทช์อาจอยู่บนสติ๊กเกอร์หรือฉลากที่ติดอยู่กับผลิตภัณฑ์ แทนที่จะพิมพ์โดยตรงบนบรรจุภัณฑ์
หากพบว่าการค้นหาหรือตีความรหัสแบทช์เป็นเรื่องยาก แนะนำให้ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าของ Dove เพื่อขอความช่วยเหลือ พวกเขาสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกตามรหัสแบทช์ ช่วยให้คุณทราบวันที่ผลิตของผลิตภัณฑ์และรับรองความสดใหม่และของแท้
เกี่ยวกับ Dove
Dove เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคลที่เป็นเจ้าของโดย Unilever และเปิดตัวครั้งแรกในสหรัฐอเมริกาในปี 1957 แบรนด์นี้เป็นที่รู้จักในเรื่องผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื้น เช่น ครีมอาบน้ำ สบู่ โลชั่น และผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย ภารกิจของ Dove คือการทำให้ความงามเป็นเรื่องจริงและเข้าถึงได้สำหรับผู้หญิงทุกคน โดยส่งเสริมความมั่นใจและความภูมิใจในตนเองผ่านแคมเปญโฆษณาและผลิตภัณฑ์ของตน
หนึ่งในผลิตภัณฑ์ยอดนิยมของ Dove คือ Beauty Bar ซึ่งเป็นสบู่ที่อ่อนโยนและให้ความชุ่มชื้นที่อ้างว่าอ่อนโยนต่อผิวและปราศจากสารเคมีที่รุนแรง อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ขายดีคือ Dove Advanced Care Antiperspirant Deodorant ซึ่งให้การปกป้องนานถึง 48 ชั่วโมงจากเหงื่อและกลิ่น พร้อมทั้งบำรุงผิวใต้วงแขนด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์
Dove เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงซึ่งได้สร้างความเชื่อมั่นในการผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคลที่มีคุณภาพสูง ทั้งมีประสิทธิภาพและราคาย่อมเยา แม้ว่าบางคนจะมีความกังวลเกี่ยวกับการใช้ส่วนผสมบางอย่างในผลิตภัณฑ์ของ Dove แต่แบรนด์ยังคงเป็นที่นิยมในหมู่ผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับความชุ่มชื้นและความอ่อนโยนในกิจวัตรการดูแลผิวของพวกเขา
สำรวจแบรนด์เพิ่มเติมโดย Unilever PLC
ตรวจสอบวันที่ผลิตของเครื่องสำอางและน้ำหอมของคุณตอนนี้
- AHC
- Axe
- Bango
- Ben & Jerry's
- Blueair
- Buavita
- Cif
- Citra
- Clear
- Closeup
- Comfort
- Cornetto
- Dermalogica
- Doli Planet
- Domestos
- Dove
- Feast
- Glow & Lovely
- Hazeline
- Hazeline Snow
- Hellmann's
- Horlicks
- Jawara
- Knorr
- Lifebuoy
- Liquid I.V.
- Living Proof
- Love Beauty & Planet
- Lux
- LYNX
- Magnum
- Molto
- Nutrafol
- OLLY
- OMO
- Paddle Pop
- Paula's Choice
- Pepsodent
- Pond's
- Populaire
- Radiant
- Rexona
- Rinso
- Royco
- SariWangi
- Seedology
- Seru
- Signal
- Simple
- St. Ives
- Sunlight
- Sunsilk
- Superpell
- Surf
- The Laundress
- The Vegetarian Butcher
- TRESemmé
- Truliva
- Tunemakers
- Vaseline
- Verve
- Viennetta
- Vixal
- Wall's
- Wipol
- Zhong Hua
- Zwitsal
บล็อกยอดนิยม
ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องสำอางและน้ำหอม
- Batch Code คืออะไร Batch Code หรือ "รหัสแบทช์" คือตัวระบุเฉพาะที่ใช้ในการติดตามกลุ่มสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในช่วงเวลาเดียวกัน มันช่วยให้ผู้ผลิตสามารถติดตามและระบุแหล่งที่มาของสินค้าได้อย่างแม่นยำ เมื่อเกิดปัญหาหรือข้อกังวลด้านคุณภาพ รหัสแบทช์มักจะประกอบด้วยตัวอักษร ตัวเลข หรือทั้งสองอย่างผสมกัน ซึ่งบ่งบอกถึงข้อมูลสำคัญ เช่น วันที่ผลิต สถานที่ผลิต หรือหมายเลขกะการผลิต ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้สามารถระบุและแยกแยะผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งได้อย่างชัดเจน การใช้รหัสแบทช์เป็นสิ่งสำคัญในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อาหารและยา เพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์มีคุณภาพและปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค นอกจากนี้ยังช่วยอำนวยความสะดวกในการเรียกคืนสินค้า หากพบปัญหาหรือข้อบกพร่องในภายหลัง
- ฉันจะแปลเนื้อหาด้านล่างเป็นภาษาไทยตามคำแนะนำของคุณ โดยจะแปลสองครั้ง ครั้งแรกจะแปลตรงตัวตามเนื้อหา และครั้งที่สองจะถ่ายทอดความหมายใหม่ให้เข้าใจง่ายและสอดคล้องกับวิธีการแสดงออกของภาษาไทย โดยยึดตามความหมายเดิม ฉันจะเว้นวรรคก่อนและหลังชื่อแบรนด์และผลิตภัณฑ์ที่เป็นภาษาอังกฤษ และจะรักษารูปแบบ markdown ไว้ โดยจะไม่ขยายเนื้อหาเพิ่มเติม ต่อไปนี้คือผลลัพธ์การแปลครั้งที่สองเป็นภาษาไทย: จะหารหัสแบทช์บนเครื่องสำอางและน้ำหอมของคุณได้ที่ไหน?
- วิธีตรวจสอบวันหมดอายุของเครื่องสำอางและน้ำหอม เครื่องสำอางและน้ำหอมเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีอายุการใช้งาน ถ้าใช้เกินวันหมดอายุอาจส่งผลเสียต่อผิวหนังได้ เพื่อความปลอดภัย เราควรตรวจสอบวันหมดอายุก่อนซื้อและใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้เสมอ โดยดูจากสัญลักษณ์รูปโหลเปิดฝา ซึ่งจะระบุอายุการใช้งานหลังเปิดใช้ เช่น 12M หมายถึงใช้ได้นาน 12 เดือนหลังเปิดฝา หรือสังเกตจากวันที่ผลิตและวันหมดอายุที่ระบุบนบรรจุภัณฑ์ เมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ให้สังเกตการเปลี่ยนแปลงของสี กลิ่น เนื้อสัมผัส หากพบความผิดปกติควรหยุดใช้ทันที เพื่อให้ใช้เครื่องสำอางและน้ำหอมได้อย่างปลอดภัย อย่าลืมเช็กวันหมดอายุก่อนซื้อและใช้งานนะคะ