วิธีการค้นหารหัสแบทช์ของ d program
การค้นหารหัสแบทช์บนเครื่องสำอางหรือน้ำหอมของ d program มีขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้:
-
ตรวจสอบบรรจุภัณฑ์: ในเบื้องต้น ให้ดูที่บรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์เพื่อหาชุดตัวอักษรและตัวเลข ซึ่งเป็นรหัสแบทช์ โดยอาจอยู่บนกล่องที่ใช้บรรจุผลิตภัณฑ์หรืออยู่บนตัวบรรจุภัณฑ์ผลิตภัณฑ์โดยตรง
-
บรรจุภัณฑ์ผลิตภัณฑ์: หากไม่มีกล่องแล้ว ให้ตรวจสอบบรรจุภัณฑ์ผลิตภัณฑ์ รหัสแบทช์อาจพิมพ์หรือปั๊มอยู่ที่ด้านล่าง ด้านหลัง หรือตามขอบของบรรจุภัณฑ์
-
มองหาสัญลักษณ์: บางครั้งรหัสแบทช์จะอยู่ใกล้กับสัญลักษณ์ เช่น สัญลักษณ์ระยะเวลาหลังเปิดใช้ (PAO) ไอคอนรูปโถเปิดที่ระบุว่าผลิตภัณฑ์ปลอดภัยในการใช้งานนานเท่าใดหลังจากเปิดแล้ว
-
ตรวจสอบอย่างละเอียด: เนื่องจากรหัสแบทช์อาจมีขนาดตัวอักษรเล็กหรืออยู่ในบริเวณที่ไม่เด่นชัด ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีแสงสว่างเพียงพอ แว่นขยายอาจช่วยให้มองเห็นรหัสได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
-
ฉลากผลิตภัณฑ์: ในบางครั้ง รหัสแบทช์อาจอยู่บนสติ๊กเกอร์หรือฉลากที่ติดอยู่กับผลิตภัณฑ์ แทนที่จะพิมพ์โดยตรงบนบรรจุภัณฑ์
หากพบว่าการค้นหาหรือตีความรหัสแบทช์เป็นเรื่องยาก แนะนำให้ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าของ d program เพื่อขอความช่วยเหลือ พวกเขาสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกตามรหัสแบทช์ ช่วยให้คุณทราบวันที่ผลิตของผลิตภัณฑ์และรับรองความสดใหม่และของแท้
เกี่ยวกับ d program
D Program เป็นแบรนด์สกินแคร์ที่ได้รับการยอมรับในด้านการให้บริการผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพและนวัตกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาผิวต่างๆ แบรนด์นี้มีผลิตภัณฑ์หลากหลายที่ตอบสนองต่อสภาพผิวที่แตกต่างกันและแก้ไขปัญหาต่างๆ เช่น สิว ริ้วรอย และเม็ดสี D Program ภูมิใจในการใช้ส่วนผสมคุณภาพสูงที่ได้รับการสนับสนุนจากงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ทำให้ลูกค้าได้รับสิ่งที่ดีที่สุดในด้านการดูแลผิว
หนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของ D Program คือ Clarifying Serum ที่ได้รับคำชมอย่างมากในเรื่องความสามารถในการลดการเกิดสิวและปรับปรุงเนื้อผิวให้ดีขึ้น เซรั่มเบานี้มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิกและสารสกัดจากธรรมชาติอื่นๆ ที่ทำงานร่วมกันเพื่อเปิดรูขุมขน ลดการอักเสบ และส่งเสริมผิวให้สะอาด อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่คนชื่นชอบคือ Retinol Night Cream ที่ได้รับการยกย่องในด้านคุณสมบัติต้านริ้วรอย ครีมนี้มีปริมาณเรตินอลที่อ่อนโยนแต่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้ริ้วรอยเรียบเนียน ลดการเกิดจุดด่างดำ และเพิ่มความเปล่งปลั่งของผิวในขณะที่ผู้ใช้หลับ
สรุปแล้ว D Program เป็นแบรนด์สกินแคร์ที่น่าเชื่อถือ ซึ่งให้บริการผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงที่ออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาผิวต่างๆ Clarifying Serum และ Retinol Night Cream เป็นเพียงสองตัวอย่างของความมุ่งมั่นของแบรนด์ในการให้บริการผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสำหรับลูกค้า แม้ว่าผลลัพธ์แต่ละคนอาจแตกต่างกัน แต่การใช้ส่วนผสมที่ได้รับการสนับสนุนจากวิทยาศาสตร์และการตอบสนองต่อสภาพผิวที่แตกต่างกันทำให้ D Program เป็นทางเลือกที่น่าเชื่อถือสำหรับผู้ที่มองหาผลิตภัณฑ์ดูแลผิวคุณภาพ
สำรวจแบรนด์เพิ่มเติมโดย Shiseido Company, Limited
ตรวจสอบวันที่ผลิตของเครื่องสำอางและน้ำหอมของคุณตอนนี้
บล็อกยอดนิยม
ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องสำอางและน้ำหอม
- Batch Code คืออะไร Batch Code หรือ "รหัสแบทช์" คือตัวระบุเฉพาะที่ใช้ในการติดตามกลุ่มสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในช่วงเวลาเดียวกัน มันช่วยให้ผู้ผลิตสามารถติดตามและระบุแหล่งที่มาของสินค้าได้อย่างแม่นยำ เมื่อเกิดปัญหาหรือข้อกังวลด้านคุณภาพ รหัสแบทช์มักจะประกอบด้วยตัวอักษร ตัวเลข หรือทั้งสองอย่างผสมกัน ซึ่งบ่งบอกถึงข้อมูลสำคัญ เช่น วันที่ผลิต สถานที่ผลิต หรือหมายเลขกะการผลิต ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้สามารถระบุและแยกแยะผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งได้อย่างชัดเจน การใช้รหัสแบทช์เป็นสิ่งสำคัญในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อาหารและยา เพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์มีคุณภาพและปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค นอกจากนี้ยังช่วยอำนวยความสะดวกในการเรียกคืนสินค้า หากพบปัญหาหรือข้อบกพร่องในภายหลัง
- ฉันจะแปลเนื้อหาด้านล่างเป็นภาษาไทยตามคำแนะนำของคุณ โดยจะแปลสองครั้ง ครั้งแรกจะแปลตรงตัวตามเนื้อหา และครั้งที่สองจะถ่ายทอดความหมายใหม่ให้เข้าใจง่ายและสอดคล้องกับวิธีการแสดงออกของภาษาไทย โดยยึดตามความหมายเดิม ฉันจะเว้นวรรคก่อนและหลังชื่อแบรนด์และผลิตภัณฑ์ที่เป็นภาษาอังกฤษ และจะรักษารูปแบบ markdown ไว้ โดยจะไม่ขยายเนื้อหาเพิ่มเติม ต่อไปนี้คือผลลัพธ์การแปลครั้งที่สองเป็นภาษาไทย: จะหารหัสแบทช์บนเครื่องสำอางและน้ำหอมของคุณได้ที่ไหน?
- วิธีตรวจสอบวันหมดอายุของเครื่องสำอางและน้ำหอม เครื่องสำอางและน้ำหอมเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีอายุการใช้งาน ถ้าใช้เกินวันหมดอายุอาจส่งผลเสียต่อผิวหนังได้ เพื่อความปลอดภัย เราควรตรวจสอบวันหมดอายุก่อนซื้อและใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้เสมอ โดยดูจากสัญลักษณ์รูปโหลเปิดฝา ซึ่งจะระบุอายุการใช้งานหลังเปิดใช้ เช่น 12M หมายถึงใช้ได้นาน 12 เดือนหลังเปิดฝา หรือสังเกตจากวันที่ผลิตและวันหมดอายุที่ระบุบนบรรจุภัณฑ์ เมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ให้สังเกตการเปลี่ยนแปลงของสี กลิ่น เนื้อสัมผัส หากพบความผิดปกติควรหยุดใช้ทันที เพื่อให้ใช้เครื่องสำอางและน้ำหอมได้อย่างปลอดภัย อย่าลืมเช็กวันหมดอายุก่อนซื้อและใช้งานนะคะ